Once in Taiwan
ไต้หวัน เป็นอีกเดสทิเนชั่นที่เราต้องลิสต์ไว้เลยว่า ครั้งเดียวไม่พอจริง ๆ เพราะสวยงามทั้งธรรมชาติ ความมีสเน่ห์ของวัฒนธรรม รวมทั้งอาหารการกินที่ครบเครื่องถูกปากคนไทยเป็นที่สุด ที่สำคัญค่าเงินก็ถูกมาก ตีเรทง่าย ๆ คือ 1 ดอลลาร์ไต้หวัน = 1 บาทไทย มิหนำซ้ำยังมีเที่ยวบินมาลงมากมาย โดยเรามากับการบินไทย รักคุณเท่าฟ้า ใช้เวลาอยู่บนเครื่องอย่างสะดวกสบาย แค่ 4 ชั่วโมงนิด ๆ ก็แลนดิ้งถึงไทเปแล้ว
และทริปนี้ก็ทำให้ชีวิตเราสะดวก คุ้มไปอีกขั้น เพราะเราใช้บัตรเครดิตแพลทินัม การบินไทย อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (THAI American Express Platinum Card) ได้รับไมล์สะสมรอยัล ออร์คิด พลัส 2 เท่า เมื่อซื้อบัตรโดยสารการบินไทย หรือแพ็คเกจทัวร์เอื้องหลวง (ทุก 12.5 บาท : 1 ไมล์)

ไม่ขอพูดพร่ำทำเพลงอะไรมาก พาไปเที่ยเลยดีกว่า เริ่มกันที่แลนด์มาร์กหลักของไทเป ที่หากไม่แวะมาถ่ายรูปก็นับว่ายังไม่ไม่ถึงไทเป นั่นก็คือ อนุสรณ์สถาน เจียง ไค เช็ก
Chiang Kai-Shek Memorial Hall
อนุสรณ์สถาน เจียง ไค เช็ก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1976 เพื่อเป็นการรำลึกและเทิดทูนอดีตประธานาธิบดีเจียง ไค เช็ก เป็นอาคารสีขาวหลังคาทรงแปดเหลี่ยมสีน้ำเงินตามแบบสถาปัตยกรรมจีน ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางจตุรัสเสรีภาพ (Freedom Square) เป็นจุดที่ทำให้เราเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปได้มากทีเดียว
Lungshan Temple
ในช่วงเย็นเราแวะมาไหว้พระกันที่วัดหลงซาน วัดเก่าแก่อายุร่วม 300 ปี และเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในไทเป มีสถาปัตยกรรมคล้ายกับวัดพุทธแบบจีน
สำหรับคนที่อยากจะมาขอพรก็มากันได้ ขอได้ทุกเรื่องเลย เพราะมีเทพเจ้าตามความเชื่ออยู่หลายองค์
2 คืนแรกในไทเป เราฝากร่างกายลงบนเตียงนุ่ม ๆ ที่ The Sherwood Hotel โรงแรมสุดหรู ที่มอบความสะดวกสบายทั้งยามหลับและยามตื่น ให้เราได้เคลิ้มจนเกือบจะตื่นไปเที่ยวไม่ทัน
National Palace Museum
(พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติกู้กง)
เริ่มเช้าวันใหม่ ด้วยการไปเติมเสริมความรู้ทางประวัติศาสตร์ ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติกู้กง ที่มีการจัดแสดงสมบัติโบราณวัตถุและศิลปะแขนงต่าง ๆ ของชาวจีนมากว่า 700,000 ชิ้น นับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุมากที่สุดในโลก
นอกจากนั้นยังมีทั้งหนังสือหายาก เฟอร์โบราณในยุดราชวงศ์ชิง งานปั้นเชิงศาสนา ภาพวาด ภาพเขียน งานเซรามิคต่าง ๆ อาวุธ เครื่องประดับ (หยกและสำริด) รวมทั้งของใช้ในครัวเรือน และอีกมากมาย

Yangmingshan National Park
หลังจากอิ่มความรู้กันแล้ว ก็ได้เวลามาซึมซับธรรมชาติกันบ้าง ที่อุทยานแห่งชาติหยางหมิงชาน แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตและจุดชมวิวที่สูงที่สุดในไทเป แต่เสียดายที่อากาศไม่เป็นใจ ฝนตก ทำให้เราไม่สามารถขึ้นไปเดินศึกษาธรรมชาติและถ่ายวิวสวย ๆ ได้ ทำได้แค่มาดูเหมืองกำมะถันและแช่น้ำแร่ผ่อนคลายกันเบา ๆ
แม้แต่จะขึ้นไปถ่ายตึก Taipei 101 ยังมองไม่เห็นอะไรเลย ต้องกลับมาซ่อมรอบหน้า
Shilin Night Market
เรามาปิดท้ายวันกันที่ตลาดนัดกลางคืนซื่อหลิน Night Market ที่มีชื่อเสียงที่สุดในไทเป ที่แบ่งออกเป็นสองโซนหลัก คือโซนตลาดนัดในอาคารเก่า ที่เน้นขายอาหารท้องถิ่นในรูปแบบ Street Food และโซนที่เป็นตรอกซอกซอย ที่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของเล่น และอีกมากมาย
เรามีเวลาอยู่ไทเปแค่สองวัน ช่วงเช้าเราจะนั่งรถไฟความเร็วสูงไปยังเกาสง เมืองที่เขาว่ากันว่าสวยงาม อากาศดี และน่าอยู่มาก ไปดูกันดีกว่าว่าจะจริงแค่ไหน
E-DA World
ทันทีทีรถไฟเทียบชานชาลา เราก็ออกเดินทางไปที่พักทันที ซึ่งโรงแรมของเรานั้นไม่ธรรมดา เพราะเป็นอาณาจักรสุดอลังการที่สร้างขึ้นมาใหม่ นามว่า E-DA World ที่มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร โรงเรียน โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย สนามกอล์ฟ สวนสนุก และห้างสรรพสินค้า ในเนื้อที่เกือบ 600 ไร่ เป็นสถานที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวเป็นอย่างมาก
ที่ E-DA World เราสามารถเดินไปช้อปปิ้งได้อย่างง่ายดายที่ Outlet Mall ยิ่งถ้าใช้บัตร AMEX ช้อปปิ้งก็ยิ่งคุ้ม เพราะจะได้รับเพิ่ม 25% โบนัสไมล์สะสมรอยัล ออร์คิด พลัส สำหรับยอดใช้จ่ายต่างประเทศหลังจาก 100,000 บาทแรก (ทุก 16.7 บาท = 1 ไมล์) เอาไปแลกตั๋วเครื่องบินได้อีกต่างหาก ได้ไมล์เร็ว ถูกใจคนชอบเที่ยวยิ่งนัก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://www.americanexpress.com/th/th/thai-amex-card/
Cijin Island
ไฮไลท์เด็ดของเมืองเกาสง คือการมาเที่ยว Cijin Island หรือเกาะฉีจิน เกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างจากฝั่งเพียงเล็กน้อย นั่งเรือเฟอร์รี่เพียง 5 นาทีเท่านั้น มาเดินเล่นกินลมทะเล ชมวิวสวย ๆ อย่างสบายอารมณ์
เราเดินมาเรื่อย ๆ จนมาถึงทางขึ้นจุดชมวิวของเมือง คือประภาคารฉีโฮ่ว (Cihou) สร้างโดยชาวอังกฤษ อายุกว่าร้อยปี ตั้งอยู่บนเนินเขาริมทะเล เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามมาก
ช่วงโพล้เพล้เราก็เดินลงมาถ่ายรูปเล่นตามตรอกซอกซอย มองเห็นวิถีชีวิตของคนที่นี่ ผ่านถนนคนเดิน Miaoqian ที่มีชื่อเสียงว่าเป็นแหล่งซีฟู้ดที่สดที่สุดในเมืองเกาสงอีกด้วย
พลบค่ำก่อนเข้าที่พัก เราก็ไปล่องเรือกลางแม่น้ำ ชมวิวแสงสียามค่ำคืนของเมือง ชิลล์มาก ๆ
Fo Guang Shan Monastery
(พุทธอุทยานพระใหญ่ โฝ กวง ซาน)
Fo Guang Shan Monastery เป็นแหล่งท่องเที่ยวแลนด์มาร์กทางพุทธศาสนาที่มีขนาดกว้างใหญ่อลังการมากที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน มีพระพุทธรูปขนาดยักษ์พร้อมเจดีย์ขนาดใหญ่เรียงรายอยู่สองข้างทาง และมีฉากหลังเป็นภูเขา สวยงามตระการตามาก
ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับพุทธศาสนา มีเจดีย์ทั้งหมด 8 องค์ และยังเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเขี้ยวอีกด้วย
Dragon Tiger Pagoda
จุดท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของเกาสง คงหนีไม่พ้น เจดีย์มังกรเสือ ตั้งอยู่หน้าวัดฉือจี้ มีลักษณะเป็นเจดีย์สูง 7 ชั้นคู่กัน โดยจะมีรูปปั้นมังกรและเสือขนาดใหญ่เป็นทางขึ้นเจดีย์
เจดีย์ทั้งสอง ตั้งเด่นอยู่ริมสระบัว สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเซิงต้าตี้ เทพแห่งการรักษา มีความเชื่อกันว่าถ้าเดินเข้าทางปากมังกรแล้วออกทางปากเสือ จะเป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากชีวิต
Dome of Light – Formosa Boulevard
ก่อนจะบินกลับไทย เรามาแวะถ่ายรูปปิดท้ายกันที่ MRT Formosa Boulevard เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟ 2 สาย เป็นงานประติมากรรมกระจกสีในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านแนวคิดของดิน น้ำ ลม ไฟ ที่บอกเลยว่าโคตรสวย
เป็นทริปที่เที่ยวแบบสบาย ๆ กับ 5 วัน 4 คืนในไต้หวัน ซึ่งผ่านไปเร็วจริง ๆ เผลอแปปเดียวก็ต้องกลับไทยซะแล้ว แต่เราบอกเลยว่ายังไม่จบแค่นี้ เรายังมีไต้หวันรอบสองที่จ่อคิวรออยู่ รับประกันความพีคเป็น 10 เท่า
ขากลับก็บินตรงจากเกาสงกลับสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินไทยสมายล์ รอยยิ้มคู่ฟ้า ที่น่ารักและดูแลเราดีตลอดการเดินทาง แถมอาหารอร่อย แอร์น่ารักอีก อันนี้จริงจัง 555
แล้วพบกันใหม่อีกครั้ง “ไต้หวัน” ครั้งเดียวไม่พอจริง ๆ
สุดท้ายนี้ขอบคุณการบินไทย และสายการบินไทยสมายล์ ที่พาเราบินไปเที่ยวไต้หวันแบบกินหรู อยู่สบาย พร้อมดูแลเป็นอย่างดีตลอดการเดินทางครับ