เที่ยวรัสเซียแบบเหนือความคาดหมาย จุดเริ่มต้นในการเที่ยวยุโรปแบบไม่ง้อวีซ่า ใครชอบวิหาร เว่อวัง งานสถาปัตยกรรมมีให้เสพจนจุใจ และใน ep. แรก พบกับ เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก มหานครที่เราอยากจะบอกว่า โคตรสวยเลยครับ
Unexpected Russia Ep.1 : Saint Petersburg
ทริปนี้เราเลือกบินของการบินไทย เพราะบินตรงไม่ต้องเสียเวลาทรานซิทเครื่อง แอร์ก็น่ารักยิ้มแย้มตลอด อาหารก็รสชาติดีไม่มีตก นั่งดูหนังเพลิน ๆ เผลอหลับเพราะนั่งสบาย ตื่นมาอีกทีก็ถึงกรุงมอสโกเลย ที่สำคัญจองก็ง่าย จ่ายก็แสนสะดวก คลิก http://www.thaiairways.com
ทันทีที่เครื่องแลนด์ดิ้ง เราก็รีบบึ่งไปซื้อซิมทันที ถ่ายรูปมาเยอะก็อยากจะอัพรัว ๆ ต้องบอกก่อนว่าเป้าหมายแรกในรูทของเราคือเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก โดยเราต้องออกจากสนามบินในกรุงมอสโก ด้วยรถไฟ Aero Express แล้วไปต่อรถไฟใต้ดิน เพื่อจะไปสถานีรถไฟหลักที่จะพาเราข้ามเมือง แค่อ่านก็เหนื่อยแล้วเนอะ แต่ถ้าผ่านวันนี้ไปได้ก็สดใสไฉไลแล้วล่ะ
แนะนำซิมเจ้านี้ MTC เร็วแรงทะลุโลก ราคามีหลายเกรดแล้วแต่ความจุ แต่เราเลือกแบบอันลิมิต เพราะต้องใช้เน็ตแรง ๆ ทำงาน ใช้ได้เดือนนึง (แต่เราไปแค่ 8 วัน 555+) ราคา 1,000 รูเบิ้ล หรือประมาณเกือบ 600 บาท
จากนั้นเดินออกมาให้เห็นมุมนี้หน้าสนามบิน ซ้ายหันเดินไปตามทางจะเจอสถานี Aero Express เราจะนั่งเข้าเมืองกัน ตั๋วราคา 500 รูเบิ้ล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที
ได้พักหายใจ มองความเคลื่นไหวข้างนอกหน้าตา เราก็มานั่งกังวลไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าทริปนี้มันจะออกมาเป็นยังไง เพราะนี่เป็นการออกนอกบ้านไปเที่ยวกันเอง 2 คน ไกลที่สุดในชีวิต แถมยังเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลกซะด้วย จะหลงมั้ย จะเจอคนไทยบ้างรึเปล่า จะเจอโจรมั้ย จะไปทันรถไฟรึเปล่า …
เราหยุดคิด แล้วแบกกระเป๋าออกจากรถไฟ เดินมุ่งหน้าไปยังสถานีเพื่อเข้าไปทางเชื่อมรถไฟใต้ดิน ต้องบอกเลยว่าระบบรถไฟใต้ดินที่นี่นั้นยิ่งใหญ่อลังการสมคำร่ำลือ แต่สิ่งที่เราต้องอึ้งกว่าคือมันลึกมาก ลงบันไดเลื่อนหลับไปตื่นนึงยังไม่ถึงชั้นล่างเลย ฮาาาาา
ก่อนอื่นอย่าลืมยอดตู้ซื้อตั๋ว ขาเดียวแค่ 55 รูเบิ้ลเท่านั้น
พอดนั่งมาถึงสถานีจุดหมาย อย่าคิดว่าจะถึงแบบง่าย ๆ เตรียมตัวเดินขาลากได้เลย เราขอเตือนว่าถ้าเป็นไปได้อย่าเอากระเป๋าลากใบใหญ่มาลุยรัสเซียเด็ดขาด เพราะบางที่เราต้องยกกระเป๋าขึ้นบันไดนับร้อยขั้น เล่นเอาหมดพลังไปเลยล่ะ
แผนผังแสดงเส้นทางการวิ่งของรถไฟ เส้นประสีแดงคือ Aero Express ที่เรานั่งจากสนามบิน Domodedovo ดูตามภาพมันจะมาสิ้นสุดที่สถานีตัดกับสายสีเขียว ตรงนั้นแหละที่เราต้องต่อรถไฟใต้ดิน นั่งสายสีน้ำตาลวนขึ้นไปทางขวาสามป้าย (ตรงที่ตัดกับสายสีแดง) สถานี Komsomolskaya จากนั้นเราก็ต้องเดินขึ้นไปบนดิน แล้วก็จะเจอกับ Leningradsky Railway station ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่จะพาเราไปมหานครเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก
เราจองรอบรถไฟไว้รอบดึก เลยพอมีเวลาเดินถ่ายรูปเล่น หาอะไรกินรองท้อง ก่อนจะขึ้นรถไฟแบบตู้นอน ตื่นมาจะได้เที่ยวได้เลย ซึ่งรถไฟขบวนแบบนี้ควรจองและจ่ายเงินมาก่อน เข้าไปอ่านในกระทู้นี้ได้เลย บอกวิธีการจองแบบละเอียดยิบ https://pantip.com/topic/36106146
เดินมาเห็นวิวนี้ นั่นแหละคุณยืนอยู่หน้าสถานีแล้ว หันขวาแล้วเดินเข้าไปเลย
เตรียมพร้อมขึ้นไปหลับยาว ๆ
แต่ละโบกี้จะมีห้องแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน แบ่งห้องละ 4 เตียง
ใครบอกคนรัสเซียดุ ยิ้มยาก ภาพนี้คือคำตอบ พนักงานบนรถไฟน่ารักมาก ๆ
แสงแรกส่องผ่าน เราเดินทางมาถึงจุดหมายแล้ว
ต่อไปนี้เป็นภาพระหว่างทาง จากสถานีรถไฟเซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก ไปโรงแรมที่เราจองไว้ โดยเราเดินไปตามถนนสายหลักของเมืองอย่าง Nevsky ร่วม ๆ 4 กิโล แสงอาทิตย์ยามเช้าค่อย ๆ ตกกระทบกับตึกรามบ้านช่องที่ดูเคร่งขรึมสง่างาม สาดเป็นเงาสวยงาม เราเดินเล่นถ่ายรูปอย่างเพลิดเพลิน
มาพูดถึงเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวในย่าน Nevsky อันเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและแหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง บริเวณรอบ ๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมาย โดยเฉพาะพระราชวัง โบสถ์และวิหาร มาดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้าง
01. Nevsky Prospekt
อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรก ถนนเนฟสกี้ สามารถเดินเที่ยวถ่ายรูปช้อปปิ้งได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีร้านอาหารชั้นนำมากมาย โดยเฉพาะ Burger King ที่เราฝากท้องแทบทุกวัน เพราะอาหารรัสเซียไม่ค่อยจะถูกปากเรานัก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งแสดงนิทรรศการ
ผลงานศิลปะต่าง ๆ และการแสดงดนตรีเปิดหมวก (หากมีของมีค่าติดตัวควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปปะปนกับฝูงนจำนวนมาก เพราะที่นี่มีมิจฉาชีพชุกชุมมากที่สุดแห่งนึงในยุโรป)
02. Kazan Cathedral
มหาวิหารคาซาน สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ตรงกับช่วงปีค.ศ. 1708 ซึ่งแต่เดิมนั้นจัดได้เพียงว่าเป็นโบสถ์เล็กๆ เท่านั้น โดยภายในมีรูปไอคอนและพระแม่มาเรีย (Our Lady Of Kazan) ที่วาดขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16 ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าอีวานที่ 4 ในช่วงที่กรุงมอสโกก่อตั้งเป็นเมืองหลวง
โบสถ์คาซาน เป็นสถาปัตยกรรมในรูปศิลปะแบบนีโอคลาสสิก เป็นลักษณะรูปทรงครึ่งวงกลม มีเสาหินวางเรียงแถวยาวอย่างเป็นระเบียบหลังจาก 10 ปี แห่งการก่อสร้าง มหาวิทยาลัยคาซานกลายเป็นสถานที่เพื่อมาสักการะบูชาที่ได้รับความนิยมเป็น อย่าง เนื่องจากสาเหตุหนึ่งมาจากเพราะตั้งอยู่ในใจกลางเมือง จึงทำให้ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวพบเห็นได้ง่าย
ช่วงที่เราไปคือซัมเมอร์ อากาศเย็นกำลังดี ผู้คนออกมาเดินเที่ยวเล่น มีแต่ของสวย ๆ งาม ๆ ทั้งนั้นเลย
03. Church of the Savior on Spilled Blood (วิหารแห่งหยดเลือด)
วิหารหยดเลือดแห่งนี้ ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากเป็นอนุสรณ์ที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระบิดา ซึ่งก็คือ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 (ผู้ประกาศเลิกทาส) ที่ถูกลอบปลงพระชนม์บริเวณนี้ในปี ค.ศ. 1881
สถาปัตยกรรมอยู่ในช่วงศิลปะยุคฟื้นฟู เลียนแบบโบสถ์โบราณของกรุงมอสโก ภายในตกแต่งไว้อย่างวิจิตรงดงาม ด้วยลวดลายของกระเบื้องโมเสกอันโด่งดัง ประกอบกับฝีมือของจิตรกรชื่อดังกว่า 30 คนเลยทีเดียว และเมื่อเดินชมไปรอบ ๆ วิหาร จะรับรู้ถึงบรรยากาศของผู้คน ร้านค้าอันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับรัสเซีย
ถนนเลียบคลองตรงวิหารหยดเลือดนั้น สามารถเดินดูของ ช้อปปิ้ง ชมวิถีชีวิตผู้คนที่น่าสนใจ เพราะนอกจากเราจะได้ชมความสวยงามอลังการของวิหารแล้ว เราจะได้ซึมซับบรรยากาศรอบด้านได้อย่างเต็มอิ่ม
04. Winter Palace / State Hermitage Museum
พระราชวังฤดูหนาว เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ถูกสร้างให้มีขนาดใหญ่มากขนาดนี้ก็เพื่อแสดงถึงอำนาจและความรุ่งโรจน์ของซาร์แห่งจักรวรรดิรัสเซีย ซึ่งแต่เดิมพระราชินีแคทเธอรีนได้เก็บรวบรวมภาพเขียนชื่อดังไว้มากมายจากทั่วทุกมุมโลก จนต้องสร้างห้องสำหรับเก็บภาพและสมบัติล้ำค่าขึ้นมา
ภายนอกของพระราชวังใช้โทนสีเขียวขาวด้วยสถาปัตยกรรมบาโรก ตัวอาคารมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า 3 ชั้น ที่ใหญ่โตมาก เฮอร์มิเทจประกอบไปด้วยอาคาร 5 หลัง สร้างเชื่อมต่อกัน คือ พระราชวังฤดูหนาว (Winter Palace) อาคารเล็ก (Small Hermitage) อาคารเก่า (Old Hermitage) อาคารใหม่ (New Hermitage) และอาคารโรงหนัง (Hermitage Theatre)
บริเวณรอบ ๆ พระราชวังนั้นกว้างใหญ่มาก มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก แค่ได้มองผู้คน เด็กวิ่งเล่น ภาพความสุขของครอบครัวมที่ได้มาเที่ยว แค่นี้เราก็โคตรมีความสุขแล้ว
ทีนี้เรามาดูข้างในบ้างดีกว่าว่ามิวเซียมเขาเก็บอะไรไว้ ก่อนอื่นเราต้องซื้อตั๋วก่อน วิธีง่าย ๆ คือเดินไปที่ตู้ซื้ออัตโนมัติตามภาพล่าง ใช้บัตรเครดิตรูด แค่นี้ตั๋วก็ออกมาแล้ว ไม่ต้องไปต่อแถวซื้อให้เสียเวลา
เมื่อเข้ามาข้างใน ยอมรับเลยว่ามันยิ่งใหญ่ เล่อค่า เพราะมิวเซียมแห่งนี้อุดมไปด้วยสมบัติล้ำค่าของชาติไว้มากกมาย ทั้งภาพเขียน เครื่องประดับ อาวุธโบราณ ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องนุ่งห่ม ฯลฯ เรียกได้ว่ารวมประวัติศาสตร์ทั้งหมดของเมืองไว้ที่นี่ที่เดียว
05. Saint Isaac’s Cathedral
มหาวิหารนักบุญไอแซค เป็นวิหารที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดในรัสเซีย โดยแต่เดิมเป็นโบสถ์ไม้ ต่อมาได้รับการปรับปรุงเป็นโบสถ์หินและถูกสร้างใหม่ในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 เพื่อให้เป็นมหาวิหารที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก มียอดโดมทองใช้ทองคำแผ่นปิดหนักรวม 100 กิโลกรัม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ข้างในใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมราชาภิเษกหรือใช้ทำพิธีก่อนกษัตริย์ไปรบ
สวยงามทั้งภายนอกและภายใน ยิ่งไปกว่านั้นอีกไฮไลท์สำคัญคือการเดินขึ้นไปบนยอดวิหารเพื่อชมวิวของเมือง โดยเราขึ้นไปช่วงรอบดึก ก็จะเห็นวิวเมืองที่เต็มไปด้วยแสงไฟ สวยจับใจไปอีกแบบ
06. City Tour (ขึ้นรถ ลงเรือ ชมเมือง)
สถานที่ท่องเที่ยวที่เราเอ่ยมาทั้งหมดสามารถเดินจากโรงแรมไปเที่ยวได้เลย แนะนำว่าให้พักในย่านเนฟสกี้นี่แหละ สะดวกที่สุดแล้ว และอีกหนึ่งประสบการณ์ที่เราอยากแนะนำคือการนั่งรถ ขึ้นเรือชมทิวทัศน์ของเมือง ถ้าใครขี้เกียจเดินหรือชอบนั่งชิลล์ ๆ ดูวิวไปเรื่อย ๆ ก็จัดเลย
ความพิเศษมันอยู่ตรงที่ตั๋ว เราแนะนำให้เลือกแบบเหมาทั้งวันราคา 2,000 รูเบิ้ล แพงหน่อย แต่ถ้าเที่ยวแต่เช้าถึงเย็นรับรองว่าคุ้มแน่นอน คือเราจะนั่งรถไปตามจุดแลนด์มาร์กของเมือง สามารถแวะลงสถานที่ต่าง ๆ แล้วขึ้นต่อแบบเดิมต่อไปอีกจุดได้ทั้งวัน รถมีวิ่งวนทั่วเมืองแค่เราต้องแสดงตั๋วทุกครั้งแค่นั้นเอง
จุดขายตั๋ว จะอยู่ข้าง ๆ วิหารไอแซคเลย
หากว่านั่งรถเบื่อแล้ว ช่วงบ่ายอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งเรือรับลมก็ไม่มีปัญหา เพราะตั๋วที่เราซื้อก็รวมเรือไว้เรียบร้อย โดยจุดขึ้นเรือจะมีบอกในแผนที่ (อย่าลืมหยิบมาตอนซื้อตั๋วล่ะ) โดยเรานั่งเรือลัดเลาะไปตามคลองเล็ก ๆ สู่ปากแม่น้ำ ระหว่างผ่านอาคารเก่าแก่ ได้เห็นอีกมุมมองของเมือง ประทับใจมาก ๆ
ตลอด 4 วันในเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นอีกเมืองในยุโรปที่เราชอบมาก อากาศก็ดี สถาปัตยกรรมงดงาม วิวก็แจ่ม ผู้หญิงก็สวย ไม่รู้ว่าที่มอสโกจะเป็นแบบนี้มั้ย เผลอแป้บเดียวก็ต้องเตรียมนั่งรถไฟกลับซะแล้ว …
เรานั่งรถไฟแบบด่วนกลับมอสโกในช่วงเย็น ขึ้นที่สถานีเดิมตอนขามา
เรื่องราวรัสเซียของเรายังไม่จบ โปรดติดตามต่อใน EP. 2 MOSCOW …
Like this: Like Loading...