หลาย ๆ คนอาจจะเคยโดนครหาว่า จะเที่ยวอะไรนักหนา ทำไมไม่เก็บเงิน เที่ยวมันสิ้นเปลือง ไม่เหนื่อยบ้างหรอ ตะลอนเที่ยวตลอด ฯลฯ ซึ่งพวกเขาไม่รู้เลยว่าเงินที่เราจ่ายไปหลักพัน หลักหมื่น หรือหลักแสนนั้น มันแลกมาด้วยสิ่งที่มีค่ามากที่สุด นั่นก็คือ “ประสบการณ์” ที่เขาเหล่านั้นไม่มีวันได้รู้ แล้วก็อย่าได้แคร์ เพราะถ้าเงินที่เราเที่ยวคือเงินของเราเอง! ออกไปเที่ยว ออกไปหาประสบการณ์กันเถอะ
10 Destinations to make your Experiences
10 ทริปสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต 2018
และเมื่อก้าวสู่ปี 2018 เราจึงคัดสรร 10 จุดหมายปลายทางเด็ด ๆ จากทั่วโลกที่เราเคยไปมา เพื่อให้เพื่อน ๆ เกิดแรงบันดาลใจในการออกเดินทาง หรือเป็น Wishlist สำหรับปีนี้ ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละที่นั้นเราจะได้รับประสบการณ์อันเข้มข้นในอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีที่กันบ้าง …
1. Annapurna Base Camp – Nepal
อยากหาความท้าทายให้ชีวิต ด้วยการเดินป่าไต่ระดับความสูง ณ เทือกเขาหิมาลัย กับสเต็ปแรกที่เราอยากแนะนำ Annapurna Base Camp ประเทศเนปาล เป็นเส้นทางที่สวยงามและไม่ยากจนเกินไป แต่ก็ต้องอาศัยหัวจิตหัวใจที่เข้มแข็ง อึด ถึก ทน เพราะเส้นนี้ต้องเดินกันอย่างต่ำ 9 วันเต็ม เราจะเห็นทั้งป่าดิบชื้น ป่าโบราณ ทะลุหมู่บ้านชาวเชอร์ปา ก่อนจะไปถึงจุดหมายที่เบสแคมป์ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะ
ค่าประสบการณ์ : ความแข็งแกร่งของร่างกาย / ใจเย็น / ฝึกอัตตา / เข้าอกเข้าใจผู้อื่น / ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหา
2. Mount Bromo – Indonesia
ออกไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ในดินแดนแห่งภูเขาไฟ อินโดนีเซีย แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงโบรโม่ แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราว่าที่นี่ควรค่าแก่การมาเห็นสักครั้งในชีวิต เหมือนเราได้หลุดไปอยู่บนดาวอีกดวงกับภาพที่เห็นตรงหน้า มันทั้งมหัศจรรย์ สวยงาม น่ากลัวในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะตอนขึ้นไปยืนอยู่ตรงปากปล่อง มันทำให้เรารักชีวิตตัวเองมากขึ้น นอกจากนี้ใกล้เคียงเราแนะนำให้ไปภูเขาไฟคาวาอีเจียน เราจะได้ฝึกความอดทนในการอดนอน ขึ้นไปดมกลิ่นกำมะถัน ตบท้ายด้วยการลุยป่าเข้าไปสัมผัสความลี้ลับที่น้ำตกมาดาคาริปุระ (MADAKARIPURA WATERFALLS)
ค่าประสบการณ์ : ความแข็งแกร่งของร่างกาย / การให้อภัยผู้อื่น / สัจธรรม / ความเห็นอกเห็นใจ
3. Saint Petersburg & Moscow – Russia
เที่ยวยุโรปแบบไม่ง้อวีซ่า รัสเซียคือคำตอบที่ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา กับสองเมืองสองสไตล์ เสพศิลป์กลิ่นความรุ่งเรื่องผ่านความสวยงามของสถาปัตยกรรมโบสถ์และพระราชวัง แต่ข้อควรระวังในการเที่ยวรัสเซีย โดยเฉพาะเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในช่วงซัมเมอร์ อากาศจะดี นักท่องเที่ยวจะเยอะมาก มักจะมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่ค่อนข้างเยอะ จะเดินไปแห่งหนใด ก็ดูหน้าหลังให้ดี ๆ เก็บของมีค่าไว้ให้มิดชิด นอกจากนี้ความยากของรัสเซียอีกอย่างคือภาษา เพราะคนที่นี่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษทั้งพูดและเขียน ดังนั้นการเที่ยวต้องอาศัยสกิลเอาตัวรอดให้ดี
ค่าประสบการณ์ : ความรอบคอบ / การเอาตัวรอด / การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า / การให้กำลังใจตัวเอง
4. Fukushima – Japan
ญี่ปุ่น เป็นอีกประเทศที่เราชอบมาก ไปมาสามครั้ง ประทับใจทุกครั้ง โดยเฉพาะฟุกุชิมะ จังหวัดที่มีความสวยงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่งดงาม กับฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยจนต้องร้องขอชีวิต บ้านเมืองที่เงียบสงบไม่วุ่นวาย แต่อีกทางหนึ่งก็มีความยากในการเที่ยว เพราะการเที่ยวญี่ปุ่นนั้นเส้นทางหลักคือการนั่งรถไฟ และไม่มีภาษาอังกฤษใด ๆ มาช่วยเหลือ เราต้องมีความตรงต่อเวลา ต้องสังเกตจดจำเวลาและสถานที่ให้แม่นยำ ถ้าทำได้ ญี่ปุ่นก็อยู่ในกำมือเรานี่เอง …
ค่าประสบการณ์ : ความตรงต่อเวลา / มีไหวพริบช่างสังเกต / ฝึกการจำ / ภาวะการวางแผนและการเป็นผู้นำ
5. Luangprabang – Laos
ออกไปสัมผัสชีวิตช้า ๆ ไม่ต้องเร่งรีบ ที่เมืองมรดกโลก “หลวงพระบาง” สปป.ลาว ใครไปใครมาต่างต้องตกหลุมรักในวัฒนธรรมที่ยังยังรักษาความดั้งเดิมไว้แทบทั้งหมด ทั้งวัดวาอารามที่สวยสะดุดตา ผู้คนที่เป็นมิตร ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยคาเฟ่คูล ๆ ให้ได้ถ่ายรูปกันเพียบเลยล่ะ สถานที่แนะนำก็จะมีวัดเชียงทอง ไนท์มาร์เก็ต น้ำตกกวางสี หนองเขียว เมืองงอย ฯลฯ
ค่าประสบการณ์ : การให้เกียรติผู้อื่น / ความใจดี / เป็นผู้มีความสุขง่าย
6. Jaipur – India
หลายคนพอรู้ว่าเราจะไปอินเดีย ต่างทำหน้ายี้ใส่แล้วถามกลับมาว่า จะไปทำไม ไหวหรอ สกปรก อันตรายนะ นั่นคือภาพในหัวและสิ่งที่เราติดจากการรับรู้โดยคนอื่น แต่เมื่อได้ไปสัมผัสสถานที่จริงแล้วบอกได้เลยว่า อินเดีย เป็นประเทศที่เรารักมากที่สุด โดยเฉพาะ Jaipur หรือนครชัยปุระ แห่งแคว้นราชสถาน ผู้คนน่ารักเป็นมิตรมาก แถมยังชอบถ่ายรูปมาก ๆ ด้วย คนที่ชอบถ่ายรูปไปนี่ไม่ผิดหวัง ถึงแม้วันแรก ๆ อาจจะมีการปรับตัวจากเสียงแตรบ้าง แต่ด้วยสถานที่ที่โคตรสวย ความบ้าบอต่าง ๆ ของคนอินเดีย มันทำให้เราหลงรักเข้าอย่างจัง ไม่มีที่ไหนเหมือนอีกแล้ว มีความเป็นตัวเองสูงมาก แม่งโคตรมีเสน่ห์เลย
ค่าประสบการณ์ : ความสนุกสนาน / ความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น / การเปิดรับสิ่งใหม่ / ความมีน้ำใจ
7. Zermatt – Switzerland
จากเทือกเขาหิมาลัย มุ่งหน้าไปสู่เทือกเขาแอลป์ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สัมผัสความยิ่งใหญ่และเยือกเย็นของภูเขาหิมะกับยอดเขา Matterhorn ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นจนถูกแบรนด์ระดับโลกสองแห่งนำไปเป็นเครื่องหมายการค้าทั้งช็อคโกแลต Toblerone และค่ายหนังฟอร์มยักษ์ Paramount Pictures โดยเมืองเซอร์แมตต์เป็นจุดศูนย์กลางในการท่องเที่ยว ฤดูกาลที่งดงามที่สุดคือช่วงใบไม้เปลี่ยนสีหรือฤดูใบไม้ร่วง จะตรงกับเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน โดยสามารถเช่ารถขับทั่วสวิสได้อย่างสบาย นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบ Blausee ใกล้กรุงเบิร์น ที่ห้ามพลาด กับความสวยงามระดับร้อยล้าน!
ค่าประสบการณ์ : ฝึกการใช้ภาษา / ภาวะการวางแผนและการเป็นผู้นำ / การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
8. Dalat – Vietnam
ดาลัต เมืองสวยท่ามกลางหุบเขาที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม เป็นเมืองแห่งดอกไม้ มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ แถมยังขึ้นชื่อเรื่องสตรีทฟู้ดอีกด้วย สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดคือการเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ลงไปดูน้ำตก Dalanta ออกไปสัมผัสความอลังการของน้ำตกฟงกั๋ว และการเดินช้อปปิ้งที่ Dalat Night Market แต่เวียดนามนั้นจะขึ้นชื่อเรื่องความโกง โดยเฉพาะพวกร้านค้าและแท็กซี่ ควรนับเงินให้ดี ๆ ให้รอบคอบ ควรไปด้วยกันหลาย ๆ คน
ค่าประสบการณ์ : การเอาตัวรอด / การวางแผน / ความรอบคอบ / ความเป็นทีมเวิร์ก
9. Shanghai – China
ลืมเมืองจีนในแบบที่คุณรู้จัก ออกไปเดินอกผายไหล่ผึ่งแบบเจ้าพ่อที่มหานครเซี่ยงไฮ้ สัมผัสความเป็นไชนีสยูโรเปียนกับความหรูหราของอาคารบ้านเรือน สัมผัสตึกสูงที่ทันสมัยสมกับเป็นเมืองเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของประเทศ นอกจากนี้ก็ยังมีความโลคอลให้เราได้ซึมซับที่หมู่บ้านจูเจียเจี่ยว หมู่บ้านโบราณอายุหลายร้อยปี หรือจะย้อนวัยเด็กวันซน ด้วยการไปเล่นเครื่องเล่นและกิจกรรมสุดหรรษาที่ Shanghai Disney Land ที่บอกเลยว่าสนุกสนานเพลิดเพลินมาก
ค่าประสบการณ์ : การเปิดรับสิ่งใหม่ / การวางแผนการเดินทาง / ความช่างสังเกต
10. Copenhagen – Denmark
จูงมือแฟนไปหวานที่สแกนฯ กับกรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก ดินแดนแห่งเทพนิยาย ต้นกำเนิดของนางเงือกน้อยแอเรียล เดินเล่นชมเมืองชมวังสวย ๆ ให้ร่างกายกระทบกับแสงแดด มองดูผู้คนยืนจู๋จี๋แบบไม่แยแสโลก ที่ห้ามพลาดคือ Nyhavn ท่าเรือเก่าที่ป็นแหล่งแฮงเอาท์สุดฮิต โดดเด่นด้วยอาคารสีสันสดใสเรียงรายเป็นทิวแถว เป็นสถานที่สุดโรแมนติกอีกแห่งหนึ่งในยุโรปเลยล่ะ เราหลงรักที่นี่มาก เห็นแล้วอยากกลับไปอีก ช่วงที่สวยที่สุดคือตอนซัมเมอร์กับใบไม้ร่วง
ค่าประสบการณ์ : ฝึกการสื่อสาร / การบริหารเวลา / ภาวะการวางแผนและการเป็นผู้นำ
ทั้ง 10 ทริป 10 จุดหมาย ล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวให้เราไปพบเจอ เราเชื่ออยู่ตลอดว่าทุกการเดินทาง ไม่ใช่แค่การออกไปเที่ยวเพื่อถ่ายรูปอวด แต่การเดินทางมันให้ประสบการณ์อันล้ำค่ากับเราด้วย มันช่วยพัฒนาเรา ช่วยส่งเสริมให้เราเรียนรู้ เข้าใจโลก เข้าใจคนอื่นมากขึ้น และนำไปสู่การเป็นคนที่ดีกว่าเดิม …