ถ้าอยากหนีร้อนเมืองไทยไปที่ไหนสักแห่ง เราคงต้องขอแนะนำเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เป็นตัวเลือกแรก ๆ ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น เมืองนี้เต็มไปด้วยกลิ่นไอความคลาสสิก ผสมผสานความเจริญแบบสมัยใหม่ มองไปทางไหนก็ดีต่อจิตต่อใจเหลือเกิน ทำให้รู้ว่าเดี๋ยวนี้เมืองจีนน่าเที่ยวกว่าแต่ก่อนเป็นไหน ๆ
มาเที่ยวจีนใครว่าลำบากเราขอเถียง เพราะมันสะดวกสบายตั้งแต่เช็คอินที่สนามบินเลยล่ะ เพราะเราไปไฟลท์ของสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ที่บินตรงจากสนามบินดอนเมืองสู่เมืองเซี่ยงไฮ้ทุกวัน ด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ลำใหญ่
ยิ่งเราถือบัตรเครดิตแอร์เอเชีย แพลทินัม มาสเตอร์การ์ด ธนาคารกรุงเทพ ด้วยแล้วยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เพราะเมื่อแสดงบัตรเราจะได้เช็คอินที่เคาน์เตอร์พิเศษ เราจะได้แถวพิเศษไม่ต้องรอคิวยาว แถมยังได้ติดแถบ Xpress Baggage ที่กระเป๋าสัมภาระ ที่เมื่อไปถึงแล้วจะได้รับกระเป๋าก่อนใครไม่ต้องรอนานอีกด้วย
นอกจากนี้ยังจะได้รับสิทธิพิเศษอีกมากมาย
- BIG Points ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตร 20 บาท รับ 1 BIG Point สะสมเพื่อแลกเที่ยวบิน
- รับคะแนน BIG Points 3 เท่า สำหรับการจ่ายผ่านบัตร ทั้ง http://www.airasia.com , เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสารและ AirAsia Call Center
- แบ่งชำระสบาย ๆ กับโปรแกรม Be Smart ที่ www.airasia.com
- รับบัตรกำนัลฝากสัมภาระใต้ท้องเครื่อง จำนวน 4 ใบต่อปี
- รับบัตรกำนัลที่นั่ง Hot Seat จำนวน 4 ใบต่อปี
- Priority Booking บริการแลกสิทธิ์บินฟรีด้วยคะแนนสะสม BIG Points ก่อนใคร
- Xpress Boarding บริการขึ้นเครื่องก่อนใคร
- บริการเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นบนเครื่องมูลค่า 60 บาท ตลอดทั้งปี
- และรับโค้ดไปใส่ใน iflix แอพฯดูหนัง เพื่อโหลดหนังขึ้นไปดูบนเครื่องอย่างสบายใจ
สามารถเข้าไปชมรายเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bangkokbank.com/BangkokBankThai/PersonalBanking/DailyBanking/CreditCards/CreditCardType/Pages/CoBrandAirAsia.aspx
เมื่อแสดงบัตรเครดิตกับพนักงาน ก็รับเครื่องดื่มมูลค่า 60 บาทมาลิ้มรสทันที
การมาเหยียบถิ่นแผ่นดินใหญ่ของเราครั้งที่สองต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง (ครั้งแรกเมืองฉงชิ่ง) เซี่ยงไฮ้นั้นต่างจากฉงชิ่งค่อนข้างมากที่เต็มไปด้วยภูเขาและความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ แต่เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองแห่งสีสัน เมืองเศรษฐกิจ มีความเจริญมากที่สุดในประเทศจีน เต็มไปด้วยตึก หมู่บ้าน และถนนสวย ๆ ให้เราได้เดินถ่ายรูปเล่นกันแบบ Nonstop เลยทีเดียว
ทันทีที่เครื่องแลนดิ้งถึงแผ่นดินใหญ่ เราก็ย้ายก้นงาม ๆ ไปนั่งรถไฟแม่เหล็ก เพื่อเดินทางไปยัง Shanghai Tower กับการชมทิวทัศน์ระฟ้าระดับความสูง 118 ชั้น ซึ่งวันนั้นโชคไม่เข้าข้างเรานักเพราะมีฝนตก ทำให้หมอกลงจัด วิวด้านบนเลยถูกบังจนมิด แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่ได้มาเห็นตึกที่ใหญ่และอลังการแบบนี้
ความน่าตื่นตาตื่นใจยังคงดำเนินต่อ เพราะจากตึกสูงเสียดฟ้า เราจะดำดิ่งสู่ใต้ดินเพื่อลอดอุโมงค์เลเซอร์ใต้แม่น้ำหวงผู่ เพื่อไปยังจุดหมายคือหาดไว่ทาน อันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้
และแล้วก็มาถึงหาดไว่ทาน …
หาดไว่ทาน มีความยาวจากเหนือจรดใต้ถึง 4 กิโลเมตร เป็นเขตสถาปัตยกรรมที่ได้ชื่อว่า “พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมนานาชาติ” แต่อย่างที่บอกว่าฝนมันตกฟ้าเน่า ถ่ายอะไรไม่ค่อยได้ ไว้ค่อยมาแก้มือใหม่วันพรุ่งนี้ เราเลยมาหลบฝนเสพงานศิลป์กันที่พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ สถานที่จัดแสดงศิลปะจีนโบราณ
ศิลปะก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ เราเดินไปห้องแล้วห้องเล่า สัมผัสกับละอองของประวัติศาสตร์ที่ลอยคลุ้งอยู่เต็มอาคาร เหมือนเป็นการได้พักผ่อนหลังจากเดินทางกันต่อเนื่องหลายชั่วโมง …
ฝนไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราลดความพยายามในการมาสัมผัสวิถีเมืองเก่า ที่ตลาดเฉินหวังเมี่ยว โดยเป็นที่ตั้งของศาลหลักเมือง ศูนย์รวมสินค้าหลากหลายชนิดรวมไปถึงสตรีทฟู้ดพื้นเมือง ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของความเป็นเซี่ยงไฮ้ไว้อย่างชัดเจน

ฝนเริ่มตกหนักขึ้น เราเลยขอมาหลบฝนนั่งดื่มกาแฟที่สตาร์บัคส์ ในสถาปัตยกรรมแบบไชนีสโลคอล ทำให้กาแฟอร่อยขึ้นไปอีกระดับ ความสุขมันเกิดตอนได้นั่งละเลียดกับเครื่องดื่ม พลางสายตาไปมองผู้คนเดินขวักไขว่ ช่วงเวลานั้นเอาอะไรมาแลกก็คงไม่ยอม
ใช้บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพแทนเงินหยวนเก็บแต้มซะหน่อย
เพราะทุกการใช้จ่ายผ่านบัตร 20 บาท จะได้รับ 1 BIG Point แน่ะ
แดดร่มลมตก เรามาปิดท้ายวันกันที่นานกิงลู่ ย่านการค้าและแหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง ใครใคร่ช้อปก็ช้อป แต่เราเน้นถ่ายรูปอย่างเดียว ขอเดินชิลล์ซึมซับบรรยากาศแสงสียามค่ำคืนดีกว่า
สักพักก็มีชายชาวจีนเดินมาพูดว่า “มาซาจี้” กับท่าทีชักชวนอะไรซักอย่าง แต่เราทำการบ้านมาดี เพราะนั่นมันหมายความว่าจะชวนเราไปนวด “Massage” โดยจะมีผู้หญิงสวย ๆ มาเป็นตัวล่อ ถ้าเราหลงกลตามไปจะเจอกับการรีดไถอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นอย่าไปสนใจ เดินเชิดหน้าถ่ายรูปต่อไป เพราะหมอนวดไทยสวยกว่าเยอะ (เห้ยยย! เดี๋ยวๆๆ)
รุ่งขึ้นช่วงเช้าเราออกไปถ่ายรูปเล่นที่ The Bund ย่านการค้าเศรษฐกิจที่มีแนวตึกสวย ๆ บรรยากาศเหมือนอยู่ยุโรป ถ้าลงรูปแล้วไม่บอกว่าเป็นเซี่ยงไฮ้ คนคงคิดว่าเราอยู่ฝรั่งเศสหรือออสเตรียแน่ ๆ
เซี่ยงไฮ้ เป็นเมืองที่เจริญหูเจริญตา แตกต่างจากภูมิภาคอื่น ๆ มีความทันสมัย สะอาด ผู้คนหน้าตาดี แต่งตัวดี อาหารอร่อย ถ้าหากเพื่อน ๆ เคยยึดติดภาพลบของประเทศนี้ ลองเปิดใจมาเที่ยวเซี่ยงไฮ้ดูสักครั้งแล้วจะชอบเหมือนเรา …
จาก เดอะ บันด์ เราจะนั่งรถไฟใต้ดินไปย่านซินเทียนตี้ ย่านสุดฮิป แหล่งแฮงเอาท์ยอดนิยมของคนเซี่ยงไฮ้
ย่านซินเทียนตี้ คือแหล่งอินเทรนด์ล่าสุดของเซี่ยงไฮ้ ออกแบบโดยเบนจามิน วู้ด สถาปนิกชื่อดังชาวมะกัน ที่ได้รับการยกย่องว่ามีเสน่ห์น่าหลงใหล เพราะได้อนุรักษ์ตึกรามบ้านช่องดั้งเดิมเอาไว้ ผสมผสานกับบ้านก่ออิฐสีเทาสไตล์ชิกูเหมิน ที่จำลองขึ้นใหม่จากปลายศตวรรษที่ 19

ซินเทียนตี้มีมุมในพักผ่อนหลากหลาย ทั้งร้านกาแฟ คาเฟ่สไตล์ชิค ๆ ร้านอาหารของคนดัง บูติคเก๋ ๆ ของดีไซนเนอร์ แกลเลอรี่อาร์ต และช้อปปิ้งมอลล์ระดับไฮเอนด์ ส่วนเรานะเหรอ ถ่ายรูปวนไปสิ และถ่ายสนุกมากด้วย
เดินถ่ายรูปเล่นที่ซินเทียนตี้จนเหนื่อย ก็เลยจะขึ้นแท็กซี่ไปหาขนมกินที่นานกิงลู่ ที่เมื่อคืนเพิ่ง(เกือบ)ไปนวดมา ฮาาา พอดีเราจะไปชิมทาร์ตไข่ที่เขาว่าอร่อยนักอร่อยหนา และจัด Adidas NMD ที่เล็งไว้ตั้งแต่เมื่อวานมาครอบครองให้ได้
ช่วงเย็นที่นานกิงลู่ มีบูทเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ให้คนเข้าไปร่วมสนุกถ่ายรูปได้ด้วย พร้อมเปิดเพลง “หลงปั๊ง” ได้ฟีลไปอีก
และนี่คือทาร์ตไข่ที่เราตามหา
และสุดท้ายก็ไปสอยของที่ต้องการมาจนได้ ราคาถูกกว่าเมืองไทย ก็จัดการรูดบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพซะเลย
พอช้อปเสร็จ เราก็ไม่รอช้ารีบเดินไปที่หาดไว่ทานที่อยู่ใกล้ ๆ กัน เพื่อมาถ่าย Cityscape กับทัศนียภาพแสงไฟยามค่ำคืนของนานาตึก อันเป็นแลนด์มาร์กของเซี่ยงไฮ้ที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
ปิดท้ายคืนที่สองด้วยการไปชมวิวเมืองเซี่ยงไฮ้แบบจัดเต็ม ณ ระเบียงชั้น 58 ของโรงแรม The Ritz-Carlton Flair Rooftop ที่เราสามารถมองเห็นบริเวณหาดไว่ทานที่เรายืนถ่ายรูปอยู่เมื่อสักครู่ และแน่นอนว่าโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในภาพด้านบนที่เราเพิ่งถ่ายรูปไป…
หลังจากท่องเที่ยวกันแบบศิวิไลซ์แสงสีเสียงจัดเต็ม วันต่อมาเราเลยเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวสไตล์วิถีชีวิตกันดูบ้าง เพื่อซึมซับประวัติศาสตร์ของเซี่ยงไฮ้ให้เข้าเส้นกว่าเดิม และจุดหมายของเราก็คือ “เมืองโบราณจูเจียเจี่ยว”
จูเจียเจี่ยว เป็นเมืองเก่าแก่อายุเกือบ 400 ปี เป็นเมืองวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ โดยได้ชื่อว่าเป็น “ไข่มุกใต้แม่น้ำแยงซีเกียง” กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือการล่องเรือชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำ ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย อีกทั้งเดินสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมอย่างใกล้ชิด แวะชิมอาหารพื้นเมือง หรืออุดหนุนของที่ระลึกกลับบ้านก็ดูเข้าที
ยิ่งเราอยู่ในเมืองโบราณแห่งนี้นานเท่าไรก็ยิ่งตกหลุมรักมากขึ้นเท่านั้น ร่องรอยประวัติศาสตร์ยังคงฝังตัวอยู่ตามซอกมุมต่าง ๆ เกาะอยู่ตามรอยถลอกของสถาปัตยกรรม ที่สร้างตามแบบวัฒนธรรมโบราณสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ทำให้เราอินกับการถ่ายรูปมากขึ้นไปอีก ที่นี่เลยมีรูปเยอะมาก เราไม่อยากตัดออกเลยจริง ๆ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นแทบจะครบทุกใบ
เขาว่าอาหารที่ต้องชิมคือเต้าหู้เหม็นทอด แต่ขอเตือนว่ากลิ่นอาจไม่ถูกจมูกคนไทยนัก
เราคงต้องจากกันแล้ว หมู่บ้านโบราณ จูเจียเจี่ยว
ก่อนจะกลับเมืองไทยในวันรุ่งขึ้น ช่วงบ่ายลากยาวไปถึงค่ำมืด เราจะไปบุก Shanghai Disneyland อาณาจักรดิสนีย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก … ป่ะ ไปย้อนวัยเด็กกันเถอะ 🙂
การมาเยือนเซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ครั้งแรกของเรา สร้างความประหลาดใจได้ไม่น้อย ทั้งผู้คนที่ไม่มากจนเกินไปในวันธรรมดา ซึ่งถ้าเป็นที่อื่นจะเยอะกว่านี้หลายเท่า พื้นที่ขนาดมหึมา ตลอดจนเครื่องเล่นสุดหฤหรรษ์ ใครที่ชื่นชอบหรือเป็นแฟนการ์ตูนดิสนีย์ สมควรจะมาเช็คอินที่นี่สักครั้งในชีวิต
ไฮไลต์ที่ไม่อยากให้พลาดคือ TRON ที่ยกเอาหนังไซไฟสุดล้ำมาให้เราได้สัมผัสในรูปแบบรถไฟเหาะ ให้ความรู้สึกของการขับมอเตอร์ไซค์ในโลกอนาคต ที่บอกเลยว่าสนุกสุดมันส์
แต่ที่เราชอบที่สุดเห็นทีจะเป็น Pirates of the Caribbean เครื่องเล่นเรือลำใหญ่ที่จะพาเราดำดิ่งไปสู่โลกของโจรสลัดในรูปแบบโฮโลแกรม+4DX ต้องบอกว่าทึ่งกับงานโปรดักชั่นมาก ๆ ทั้งแสงสีเสียง ความสมจริงของบรรยากาศ รายละเอียดทุกอย่างครบรส เพื่อน ๆ ทุกคนต่างลงความเห็นตรงกันว่า นี่คือ 1 ในเครื่องเล่นที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา
มื้อเย็นเราก็ขอฝากท้องที่ร้านอาหารของไพเรทส์เนี่ยแหละ ขอบอกเลยว่าข้าวซี่โครงหมูย่างอร่อยน้ำตาไหลเลยล่ะ
เราเดินถ่ายรูปเล่น กินข้าว ช้อปปิ้งกันเสร็จ ก็มาปิดท้ายวันด้วยการชมพลุสุดอลังการบริเวณปราสาทดิสนีย์ วันนั้นถือเป็นค่ำคื่นที่ยอดเยี่ยมบนเมืองจีนแผ่นดินใหญ่ และเซี่ยงไฮ้จะเป็นอีกเมืองที่จะเข้ามาอยู่ในใจเรา … แน่นอน
แล้วพบกันใหม่นะ “เซี่ยงไฮ้” เมื่องเท่ ๆ ที่มีครบทุกความรู้สึก 🙂
สุดท้ายต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนการเดินทางที่ดูแลเราเป็นอย่างดีตลอดทริป
- สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์
- บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ
ขอขอบคุณ Nikon Sales Thailand สำหรับอุปกรณ์ถ่ายภาพ
- Lens 24-70mm F/2.8 และ 58mm F/1.4
#NonstopJourney
#ThaiAirAsiaX
#ไปเซี่ยงไฮ้ไปกับไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์
#บัตรแอร์เอเชียธนาคารกรุงเทพ
#NikonSalesThailand